วิธีที่ 1 ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว
เพราะสิ่งสำคัญที่ปรากฏเป็นความดำ และหมองคล้ำของริมฝีปากก็คือ เม็ดสีผิว!!! หรือเมลานิน(melanin) ที่ถูกสร้าง เพราะริมฝีปากของเราได้พบเจอปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ นั่นเอง ดังนั้น เมื่อเราสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวได้ ก็จะไม่มีเม็ดสีผิวมาคอยสร้างความดำและหมองคล้ำให้ริมฝีปากของเรา ริมฝีปากจึงกลับมาเป็นปากอมชมพูระเรื่อ สดใส
ปัจจุบันมีสารสำคัญที่ถูกนำมาใช้เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวที่หลากหลาย เช่น Arbutin, Kojic acid, Azelaic acid, Vitamin C, Nicotinamide, Liquorice Extract เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณ์บำรุงเพื่อผิวขาว (whithening product) ส่วนสารสำคัญที่ได้จากธรรมชาติ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย นิยมใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สำหรับทาริมฝีปาก ได้แก่ Kojic acid หรืออนุพันธ์ของ Kojic acid เช่น Kojic acid dipalmitate ซึ่งมีความคงตัว โอกาสเกิดความระคายเคืองน้อย และสามารถดูดซึมผ่านชั้นผิวได้ดีกว่านั่นเอง
สารอันตราย!! ผิดกฎหมาย!! ที่ผู้บริโภคต้องระวังและหลีกเลี่ยงอย่างเป็นที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อยับยั้งการสร้างเมลานิน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับผิวขาวหรือริมฝีปากหมองคล้ำ ก็คือ Hydroquinone เพราะอาจทำให้เกิดฝ้าถาวร ริมฝีปากระคายเคือง ไหม้แดด ได้จ้า
วิธีที่ 3 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
เพราะชั้นผิวหนังของริมฝีปากคนเรานั้นบางกว่าผิวหนังปกติหลายเท่า ทำให้สามารถมองเห็นเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวของริมฝีปากได้อย่างชัดเจน สีแดงชาติหรือสีปากอมชมพูแบบมีเลือดฝาดแท้จริงแล้วก็คือสีของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดใต้ชั้นผิวริมฝีปากของเรานั่นเอง ดังนั้น ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง การไหลเวียนเลือดดี จึงมีริมฝีปากแดงอมชมพูสดใส ส่วนในคนที่ไม่สบายด้วยโรคที่มีผลต่อการไหลเวียนโลหิตจึงมีริมฝีปากหมองคล้ำนั่นเอง วิธีกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมีหลากหลายวิธี เช่น การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การออกกำลังกาย การนวดคลึงริมฝีปากบ่อย ๆ หรือแม้แต่การจุ๊บ!! กับคนรัก ก็ทำให้เลือดไหลเวียนดี ริมฝีปากแดงระเรื่ออออ ได้เช่นกัน อีกหนึ่งวิธีที่เป็นที่นิยมใช้ในต่างประเทศก็คือ การนวดหรือทาริมฝีปากด้วยน้ำมันหอมระเหยที่มีฤิทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เช่น น้ำมันมินต์หรือ peppermint oil นอกจากจะทำให้ริมฝีปากอมชมพูสดใสแล้ว ยังได้ความสดชื่นหอมเย็นชื่นใจจากกลิ่นของใบมินต์อีกด้วย
วิธีที่ 4 เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอิ่มฟูและนุ่มนวล
ริมฝีปากที่แตกแห้ง ขาดความชุ่มชื้นย่อมมองดูหมองคล้ำ ไม่สดใส การเติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูริมฝีปากแตกแห้ง ลอกเป็นขุย ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มสดใสจึงช่วยลดความหมองคล้ำของริมฝีปากได้ วิธีเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้ทุกวันก็คือ การทาลิปบาล์ม หรือผลิตภัณฑ์ช่วยบำรุงริมฝีปากที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นต่าง ๆ เช่น วิตามินอีและมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ เป็นต้น ปัจจุบันมีส่วนผสมที่สามารถเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากที่หลากหลาย โดยส่วนผสมแต่ละชนิดนั้นนอกจากสามารถให้ความชุ่มชื้นแล้วอาจมีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาแตกต่างกันไป เช่น
> น้ำมันรำข้าว นอกจากเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นได้ดีแล้ว ยังช่วยปกป้องแสงแดด ลดการอักเสบ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือด และซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว(skin barrier)
> วิตามินอี ช่วยให้ความชุ่มชื้น และมีฤิทธิต่อต้านอนุมูลอิสระ
> น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และลดการอักเสบ
> น้ำมันเมล็ดโจโจ้บา ช่วยให้ความชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ ช่วยสมานแผล เสริมเกราะป้องกันผิว มีฤิทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
> บีส์แว็กซ์ ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้ดีมาก ช่วยรักษาปากแตกแห้ง ป้องกันริมฝีปากจากรังสียูวี มีฤิทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
> เชียร์บัตเตอร์ ช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ป้องกันริมฝีปากจากรังสียูวี ต่อต้านอนุมูลอิสระ สมานผิว เสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยฟื้นฟูริมฝีปากแตกแห้งและไหม้แดดได้
นอกจากนี้การแก้ไขที่พฤติกรรมอันเป็นสาเหตุทำให้ริมฝีปากแตกแห้ง ลอกเป็นขุยก็ช่วยฟื้นฟูให้ริมฝีปากกลับมาชุ่มชื้น อวบอิ่มสดใสได้เช่นกัน พฤติกรรมดังกล่าว ได้แก่ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น รับประทานเครื่องดื่มเกลือแร่หลังออกกำลังกายหรือหลังเสียเหงื่อ รักษาร่างกายให้อบอุ่น เป็นต้น
วิธีที่ 5 ฟื้นฟูชั้นปกป้องผิวหนังให้แข็งแรง พร้อมทุกสถานการณ์
หลังจากที่เราฟื้นฟูริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ปราศจากความแห้งแตกและดำคล้ำ มีความอมชมพูระเรื่อแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายเพื่อฟื้นฟูและปกป้องริมฝีปากให้แข็งแรง ก็คือ การรักษาเกราะป้องกันผิวหนังที่อาจถูกทำร้ายด้วยปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ ให้แข็งแรง เพื่อให้เขาสามารถทำหน้าที่ป้องกันริมฝีปากของเราได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากเซลล์ริมฝีปาก หรือการถูกทำร้ายจากปัจจัยภายนอก ริมฝีปากที่มีเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงจะมีความเรียบเนียน สดใสเปล่งประกาย พร้อมเผชิญทุกสภาวะ ช่วยคงความชุ่มชื้นสดใส อมชมพูของริมฝีปากไว้อย่างยาวนาน
ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวหนัง เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันโจโจ้บา เชียร์บัตเตอร์ Ceramide เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก...
1. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2801997/
2. https://www.mdpi.com/2079-9284/3/3/27/htm
3. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30537675/
4. https://makeupandbeauty.com/remedies-for-lip-pigmentation/
6. https://www.healthline.com/health/dark-lips#remedies
7. https://hannahsivak.com/blog/why-kojic-acid-dipalmitate/
8. https://munskin.com/blogs/skin-beauty/rice-bran-oil-benefits-for-skin
9. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/jojoba-oil-for-face#takeaway
10. https://www.scienceabc.com/humans/why-are-lips-different-from-skin-areas.htm
11. https://www.youtube.com/watch?v=xDdvXkInc8M
12. https://lifestyle.inquirer.net/23949/causes-of-and-solutions-to-darkened-lips/
13. https://www.dermatologytimes.com/view/skin-barrier-benefits-sunflower-seed-oil
14. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/jojoba-oil-for-face#takeaway
15. https://www.wisegeek.com/what-are-the-benefits-of-shea-butter-lip-balm.htm
16. https://www.wisegeek.com/what-are-the-benefits-of-beeswax-lip-balm.htm
17. https://health.howstuffworks.com/skin-care/lip-care/tips/vitamin-e-soothe-lips.htm